ชื่อวิทยาศาสตร์: Gustavia
gracillima Miers
ชื่อสามัญ:
บัวสวรรค์ (อังกฤษ: Gustavia; Gutzlaffia)
ชื่อวงศ์ : LECYTHIDACEAE
ชื่อพื้นเมืองอื่นๆ: กัสตาเวีย บัวฝรั่ง
ถิ่นกำเนิด:
ต้นไม้นี้มีถิ่นกำเนิดมาจาก ตะวันออกกลาง แอฟริกาตะวันออก โคลัมเบีย Costa
Rica, Panama ดูแล้วทุกประเทศที่กล่าวมา เป็นประเทศในเขตร้อนชื้น
ใกล้เส้นศูนย์สูตร ดังนั้นการนำมาปลูกในบ้านเราจึงเป็นเรื่องไม่ยาก
และสามารถเจริญเติบโตได้ดี โดยสามารถออกดอกได้เหมือนกับต้นที่ปลูกในถิ่นกำเนิด
ลักษณะ:
ไม้พุ่มสูง 2 - 5 เมตร เปลือกต้นสีน้ำตาลเข้ม
ใบ:
ใบเวียนเรียงสลับเป็นกระจุกที่ปลายกิ่ง ใบเป็นมัน ไม่ผลัดใบ
ดอก:
กลีบดอกหนา ซ้อนเหลื่อมกัน ดอกคล้ายดอกบัวหลวงแต่ใหญ่และสวยกว่ามาก
ดอกมักออกซ่อนอยู่ภายในทรงพุ่ม
ผล: มีลักษณะคล้ายรูประฆังคว่ำ ขนาด 3 - 4.5 เซนติเมตร
การดูแล: เป็นพันธุ์ไม้หอมที่ดูแลง่าย
ทนต่อสภาพแวดล้อม ชอบแสงแดดจัดและน้ำปานกลางถึงมาก ใบไม่ค่อยร่วง
ชอบแดดรำไรถึงแดดจัด มั่นรดน้ำพรวนดินบ้าง
การขยายพันธุ์:
การเพาะเมล็ด, การตอนกิ่ง (เปอร์เซ็นต์การออกรากค่อนข้างต่ำ ประมาณ30%)
การปักชำ การเพาะเมล็ด ตามธรรมชาติ เมล็ดของบัวสวรรค์มีขนาดใหญ่ และ
หนัก จึงไม่สามารถกระจายออกไปไกลจากโคนต้นได้มากนัก
เมื่อผลเน่าเสียเมล็ดจะถูกฝังลงดินและงอกเป็นต้นอ่อนขึ้นมา ต้นจากการเพาะเมล็ด
จะใช้เวลาในการออกดอกถึงห้าปี ช้ากว่าต้นจากการปักชำ หรือตอนกิ่ง (ต้นที่สวนลูกจันทร์
ใช้เวลาปลูกถึงออกดอกประมาณ 5 ปี)
ประโยชน์:
ประโยชน์ใช้เป็นไม้ประดับ ใบเขียวตลอดปีช่วยให้บ้านดูร่มรื่นเย็นสบาย
เยื่อไม้ใช้ทำด้าย น้ำจากก้านดอกอ่อนหมักแล้วกลั่นรับประทาน บำรุงโลหิต
และบำรุงธาตุ ลำต้นที่ตรงของเขาใช้ได้ดีสำหนับการก่อสร้าง ในสมัยโบราณ
ชาวอินเดียนแดงใช้ใบต้มทำยาแก้พิษจากการถูกธนูพิษยิง และแก้พิษไข้ แก้หวัด
ที่มีประโยชน์ที่สุดคือ ดอกสวย หอมชื่นใจ
การออกดอกโดยปกติจะออกปีละ 3 -
4 ครั้ง ทั้งนี้ต้องขึ้นกับปัจจัยหลายอย่าง ทั้งสภาพแวดล้อมและการดูแลรักษา
และดอกจะบานเพียง 1 - 2 วัน ก็ร่วงโรยลงไป รูปดอกบัวสวรรค์
อ้างอิง http://www.oknation.net/blog/loongdali/2010/01/29/entry-2
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น